- สายขาว หมายถึง การใช้ไปในทางที่ดี เช่น ช่วยเหลือผู้ที่ถูกกระทำ ป้องกันการกระทำจากผู้อื่น เป็นต้น
- สายดำ หมายถึง การใช้คุณไสยไปในทางที่ไม่ดี เช่น ทำร้ายผู้อื่น ให้ได้รับความลำบาก ทั้งทางร่างกายและจิตใจไปต่างๆ นาๆ หรืออาจทำให้เสียสติ และเสียชีวิตได้
- แบบฝังรูปฝังรอย น้ำมันพราย
- แบบยาสั่ง สั่งตาย
- แบบเสกหนังควาย ตะปูตอกฝาโลง เข็ม ดินอาถรรพ์ เศษแก้วป่น ใบมีดโกน..(เข้าท้อง)
- แบบลมเพลมพัด
- ถึงแก่ความตาย
- มีอาการบ้าเสียสติ
- รักหลงงวยงง
- หงุดหงิดโมโหร้าย ชอบเหม่อลอย พูดพร่ำคนเดียว
- ปวดท้อง ท้องบวมขยายใหญ่ ทรมานกระทั่งตาย
- หน้าดำหมองคล้ำ ร้อนรนกระวนกระวายใจ อยู่ไม่ติดที่
- อารมณ์ร้อน ใครทำอะไรก็ดูขวางหูขวางตา ไม่สบอารมณ์ พาลหาเรื่องคนในบ้าน
- มีอาการเห็นภาพหลอน ไม่มีเรี่ยวแรง
- หูแว่ว ได้ยินเสียงคนเรียก ได้ยินเสียงคนจะมาฆ่าตลอดเวลา
- มีอาการใจสั่น ร้อน และเจ็บแน่นที่หน้าอก หายใจลำบาก
- นอนไม่หลับ สะดุ้งตื่น ฝันร้ายตลอด
- กินข้าวกินปลาไม่ได้ มองเห็นภาพหลอน ขี้หวาดกลัว หวาดระแวง กลัวคนมาฆ่า ไม่กล้ากินอะไร กระทั่งหมดแรงถึงแก่ความตายในที่สุด
- อาเจียนเป็นเลือดสดๆ เหม็นเน่ากลิ่นคาวคลุ้ง
- มีอาการปวดหัวอย่างรุนแรง ราวกับมีคนเอาฆ้อนมาทุบ
- มีแผลผุเปื่อยขึ้นเองตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย มีน้ำเหลืองไหลเยิ้ม กลิ่นเน่าคล้ายซากสัตว์ตาย
- เจ็บปวดตามเนื้อตามตัว โดยเฉพาะบริเวณต้นคอ ท้ายทอย เหมือนมีอะไรมากดทับ อยู่ตลอดเวลา ตรงบริเวณชายซี่โครงด้านซ้าย เจ็บปวดราวกับ ถูกอะไรทิ่มแทง
- มีอาการคันไปทั้งตัว โดยหาสาเหตุไม่พบ และจะค่อยๆ เน่าบาดแผลยุบลึกไปเรื่อยๆ รักษาไม่หาย จนกระทั่งถึงแก่ความตาย
- มักปวดที่หัวเข่า ตามข้อเท้า ข้อมือบวม ลักษณะคล้ายๆ ถูกหนังยางรัดไว้เป็นเวลานาน
- นิ้วมือนิ้วเท้ามีลมขังแข็งเกร็ง จะออกอาการบิดเบี้ยว เหมือนคนเป็นอัมพฤกษ์ เจ็บปวดทรมานมากๆ
- บางรายมีอาการปวดบริเวณสะเอว เหมือนมีอะไรจิกกัดอยู่ข้างในตัวเรา ติดต่อกันเป็นเวลานาน. บางรายก็บ้านแตกสาแหรกขาด เลิกร้างรากัน ทะเลาะกัน มีปัญหารุมเร้า!!
โลกยุคปัจจุบัน หากมีใครสักคน พูดถึงเรื่อง โดนของ หรือถูกกระทำ ไสยศาสตร์ มนตร์ดำ เข้าตัวแล้วล่ะก็ จะต้องถูกมองว่า "เป็นเรื่องไร้สาระ งมงายทันที" เพราะผู้คนสมัยนี้ ส่วนมาก จะไม่มีความเชื่อว่า การกระทำของ หรือ ไสยศาสตร์ ยังคงมีอยู่จริง และมีจำนวนมากเลยทีเดียว ที่เป็นแบบนี้ คงเพราะว่า ยังไม่มีใครเคยพบเคยเจอ และเคยโดนเข้าจังๆ กับตัวเองก็เป็นได้
ไสยศาสตร์ คือ วิชาเกี่ยวกับเวทมนตร์ คาถาอาคม และเลขยันต์ กอรปด้วยหลักการ ใช้อำนาจสมาธิจิต ต่อด้วยการกล่าวสาธยายเวทมนตร์คาถา ตามศาสตร์ตำราโบราณ ซึ่งใช้ในการภาวนาปลุกเสก อันเป็นสิ่งลี้ลับแห่งศาสตร์โลก จริงๆแล้วคำว่า “ไสยศาสตร์” ที่เกี่ยวข้องผนวกกับ เวทมนตร์ คาถาอาคม สมัยโบราณ อันเป็นต้นตำรับนั้น เดิมทีเขาใช้กัน เพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่น ที่ได้รับความเดือดร้อน ทุกข์ยากทรมาน และรักษากันเอง ภายในวงศ์ตระกูลเท่านั้น ไม่ได้จะเอามาใช้สร้างประโยชน์พล่ำเพรื่อ สนองกิเลสตัวเองเช่นคนสมัยนี้ เพราะว่าคนสมัยโบรณ เขามีคุณธรรมในใจสูง หรือ จะเรียกว่า เขารู้จักคิด รู้จักยับยั้งชั่งใจ ไม่ปล่อยกิเลส ให้อยู่เหนือกว่าคุณธรม และความถูกต้อง จารีตขนบธรรมเนียมประเพณี ไม่มีความโลภเป็นที่ตั้ง และไม่มีความเห็นแก่ตัวเป็น สรณะ
แต่หลังๆมา ความมีคุณธรรมในใจของผู้คน เสื่อมถอยลง ถูกครอบงำกลืนกิน ด้วยกิเลส ความโลภและความเห็นแก่ตัว จึงมีจิตใจต่ำทราม ไม่รู้อะไรดีอะไรชั่ว พากันนำ "ศาสตร์” วิชาเหล่านี้ ไปประยุกต์ดัดแปลง ให้กลายเป็นอาวุธ ใช้สังหารฝ่ายตรงข้าม อย่างโหดเหี้ยมอำมหิต ในที่สุดก็กลายเป็น "ไสยศาสตร์มนตร์ดำ “สำหรับใช้ประกอบอาชีพ "รับจ้างฆ่า” ซึ่งถือว่าเป็นอาวุธร้ายแรง ที่ทรงพลังอำนาจ ความลี้ลับอาถรรพ์ อันน่าสะพรึงกลัว มากที่สุด และไม่ผิดกฎหมายบ้านเมือง เนื่องจากไม่สามารถ ตรวจพิสูจน์หาหลักฐาน มัดตัวเอาความผิด จากใครได้ จึงจำเป็นต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ ของเวรกรรมไป เพราะอย่างน้อย “กฏแห่งกรรมนั้น ก็มีความยุติธรรม ที่เสมอภาค สำหรับทุกคนเสมอ” ไม่มีข้อละเว้น สำหรับผู้กระทำความเลวทราม ต่ำช้าสามานย์ทั้งปวง
คุณไสยมนต์ดำ
พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2555 ให้ความหมายว่า คุณไสย คือ . อาถรรพณ์ คือ พิธีทำร้ายต่ออมิตร ผู้ที่เป็นศัตรู โดยเสกสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เข้าในตัวหรือฝังรูปฝังรอย เรียกกันว่า กระทำคุณไสย, ผู้ถูกกระทำ เรียกว่า ถูกคุณไสย.
คำว่า มนต์ คือ ถ้อยคําศักดิ์สิทธิ์ ที่บริกรรมเพื่อให้สําเร็จความประสงค์ เช่น โบราณใช้เวทมนตร์ในการรักษาโรคบางอย่างบางทีก็ใช้เข้าคู่กับคำ คาถา เป็น เวทมนตร์คาถา.
ส่วนคำว่า ดำ คือ เป็นการแบ่งสาย ของการใช้คุณไสยไปในทิศทางต่างๆ ซึ่งพูดรวมๆ แล้วก็แบ่งออกเป็น 2 ก็คือ สายขาว และสายดำ
คุณไสยแบบไทยๆ มีหลักๆ 4ประเภท ดังนี้
1. สายเสกเข้าท้อง
การเสกของเข้าท้อง เป็นคุณไสยระดับต่ำ มักจะปล่อยของในวันโกน วันพระ หรือวันเสาร์ วันอังคาร เพราะเป็นวันแรง โดยใช้คาถากำกับบทเดียวกันทั้งหมด สามารถทำได้หลายแบบ เช่น เหรียญปากผี เป็นเหรียญเก่าๆ สนิมเขลอะๆ ที่ง้างมาจากปากคนตาย ผ้ามัดตราสังข์ หรือ ผ้าห่อศพ ที่พันด้วยด้ายสายสิญจน์ ตะปูตอกฝาโลง หรือจำพวกหนังสัตว์ เช่น หนังควาย หนังหมู หนังงู คุณไสยจำพวกหนังสัตว์นี้ แรกเริ่มจะมีขนาดเท่ากล่องไม้ขีด แล้วจารคาถาลงไป พอปล่อยออกไปแล้ว จะไปหาเหยื่อ แล้วไปพองในท้อง ทำให้มีอาการผิดสำแดง ข้าวปลาไม่กิน เหม่อลอย นอนไม่หลับ บางราย อาจจะเสกซากงูตายทั้งตัว ไปเข้าท้องก็มี คุณไสยระดับนี้ เป็นคุณไสยที่ชั่วร้าย ผู้กระทำตั้งใจจะเอาให้ถึงตาย หากไม่รีบแก้ อาจถึงขั้นเสียชีวิต
วิธีการแก้ ให้ใช้การเสกน้ำมนต์ให้ดื่ม เพื่อขับของออกมา ส่วนใหญ่จะมารู้ว่า โดนอะไรเข้าไปก็ตอนนี้แหละ เพราะต่อให้เอ็กซเรย์ยังไง ก็หาไม่เจอ ทั้งนี้ ว่ากันว่า คนที่เกิดวันอังคาร ส่วนใหญ่จะไม่โดนของเสกเข้าท้อง เพราะเป็นคนดวงแข็ง แข็งกว่าคนเกิดวันเสาร์ ๕ เสียอีก
2. สายควบคุม
เป็นคุณไสยในระดับขั้นกลางครับ ที่เราจะเคยได้ยินบ่อยๆ ประเภท เสน่ห์ยาแฝด การฝังรูปฝังรอย การใช้พวกหุ่นดินปั้น เขียนชื่อเหยื่อลงไป จากนั้นก็เสกปล่อยไป ด้วยการเอาไปฝังตามจุดต่างๆ เช่น ป่าช้า หรือทางสามแพร่ง
วิธีแก้ไข ค่อนข้างจะยาก เพราะต้องตามของที่ทำให้เจอให้ได้ หรือไม่ ก็ทำหุ่นขึ้นมาใหม่ เรียกว่า หุ่นทำคืน โดยทำให้หุ่นเหมือนกัน แต่คืนสภาพเดิม ซึ่งประเภทนี้อาคมจะแรงมาก จะสะท้อนกลับไปยังคนที่ทำคุณไสย การทำหุ่นพวกนี้ ดินที่ใช้ปั้นต้องมีอาถรรพ์ เป็นลักษณะดินโป่ง จาก 7 ป่าช้า ถ้าเป็นในต่างประเทศ ก็คล้ายๆ กับพวกตุ๊กตาวูดู เป็นการเอารูปของเหยื่อ มาตั้งหน้ากระถางข้าวสาร ปักธูปไว้ แล้วเรียกชื่อเหยื่อแบบซ้ำๆ หรือ ปั้นตุ๊กตา เขียนชื่อเหยื่อลงไปแล้วเรียก อาทิ ถ้าเหยื่อชื่อ "คำหล้า" ก็เรียก คำหล้า คำหล้า คำหล้า คำหล้า คำหล้า ให้เรียกไปซ้ำๆ ทำไปเรื่อยๆ ไม่ต้องรีบเร่ง ทำได้เป็นระยะๆ จนกว่าเหยื่อจะเริ่มฝันแปลกๆ กระสับกระส่าย เวิ่นเว้อ เหมือนมีใครเรียกตลอดเวลา นั่นหมายความว่า เริ่มผูกจิตกับ "คำหล้า" ได้แล้ว หลังจากนั้น ก็ใช้เข็มแทงข้าวสาร หรือตัวหุ่น ถ้าแทงตรงไหน "คำหล้า" ก็จะเจ็บตรงนั้น ลักษณะคล้ายกับตุ๊กตาวูดู
อีกลักษณะหนึ่ง คือ ผงกระดูกผีมหาเสน่ห์ จะใช้กระดูกคนตายในวันเฮี้ยนๆ มาทำ เช่น ต้องตายทั้งกลม ตายวันเสาร์เผาวันอังคาร และเป็นกะโหลกศีรษะ ถึงจะได้ผลแรงจริง ใครโดนเข้าไป ก็จะกินไม่ได้นอนไม่หลับ คิดถึงแต่คนที่ปล่อยของจนผ่ายผอม
ส่วนประเภทน้ำมันพราย ลักษณะนี้ก็จัดเป็นคุณไสยระดับต่ำ มีทั้งประเภท ยาสั่ง ยาเบื่อ ยาผีบอก จะเป็นคุณไสยระดับต่ำ กว่าเสกหนังสัตว์เข้าท้องเสียอีก เป็นสิ่งที่เข้าไปง่าย แต่ถอนออกยาก โดยเฉพาะยาสั่งนั้น เอาถึงกับเสียชีวิตเลยทีเดียว ต้องใช้การถอน ด้วยพระขันธ์ตัด เป็นพระขันธ์ทำจากเขาควายเผือกถูกฟ้าผ่าตาย เอามาตัดคาถาถึงจะได้ ซึ่่งหาไม่ได้ง่าย ๆ ส่วนใหญ่จะสืบทอดกันมา
3.สายป้องกัน
เป็นประเภท สักเสกเลขยันต์ หรือห้อยไว้ เพื่อคุ้มกันภยันตรายทั้งหลาย ให้คลาดแคล้ว จากเภทภัยของมีคม และป้องกันพวกของคุณไสยด้วย เช่น จำพวกห้อย ตะกรุด ที่ทำจากแผ่นโลหะประเภททองแดง ทองเหลือง ดีบุก ตะกั่ว หรือหนังสัตว์ สำหรับตะกรุด ที่เก๋าสุด จะเป็นตะกรุดโสฬส ที่มีถึง 16 ดอก ทำให้อยู่ยงคงกระพัน ฟันแทงไม่เข้า นิยมมากในยุคสมัยออกรบแต่โบราณ
ปรอท ซึ่งมิใช่ ปรอทวัดไข้ แต่เป็นชื่อของวัตถุลี้ลับในอากาศ เป็นเกราะสายดำ ไว้สำหรับป้องกันภัย ลักษณะเป็นแท่งดำๆ อ่อนๆ ใครอมปรอทไว้ จะเดินหนหายตัวได้ หรือแคล้วคลาด จากปืนผาหน้าไม้ ฟันแทงไม่เข้า ส่วนใหญ่มักจะลองของกันทันทีที่ทำพิธีเสร็จ ทุกครั้งที่ปรอทสำแดงเดชจะเห็นเงาดำ ๆ ยืนข้างหลังคนที่มีปรอท เหมือนเป็นสิ่งปกปักอารักษ์คุ้มครอง สำคัญคือ ระหว่างทำพิธี ต้องสยบวิญญาณให้อยู่ ไม่เช่นนั้นปรอทจะดื้อ ใช้งานไม่ค่อยได้ และเป็นภัยต่อตนเอง
ยันต์ ที่มีชื่อมาก คือยันต์เกราะเพชร เป็นการเสกเป่า ไม่ใช่การสัก เวลาเข้าตัวจะขึ้นบนหน้าผากแล้วหายไป คอยคุ้มครองอันตรายจากคุณไสยแรงๆ หรือป้องกันภัยจากปืนผาหน้าไม้ แม้เสียชีวิตไปแล้ว แต่ยันต์จะยังติดอยู่กับหน้าผาก
เบี้ยแก้ เป็นเครื่องรางอันทรงคุณค่ามาแต่โบราณกาลดีทางป้องกัน โดยทำจากหอยเบี้ยซึ่งบรรจุปรอทไว้ภายใน ทั้งกันทั้งแก้สิ่งชั่วร้าย เสนียดจัญไร คุณไสย คุณคน คุณผี ยาสั่ง ยาเบื่อ ยาเมา พิษสัตว์ร้ายทั้งหลาย คงกระพัน กันได้สารพัด เป็นเสน่ห์เมตตาทางโชคลาภอีกต่างหาก ซึ่งเบี้ยแก้นั้นถ้าสร้างถูกวิธีการสร้างยากมาก
วิธีการสร้างเบี้ยแก้ ส่วนสำคัญประกอบด้วย หอยเบี้ยแก้, ปรอท, ชันโรงใต้ดิน, ตะกั่ว, น้ำรักสีดำ, หอยเบี้ยแก้ ซึ่งเป็นหอยชนิดหนึ่งที่มีลาย เป็นเอก9ลักษณ์เฉพาะตัว ปรอท
4. สายโจมตี
เป็นจำพวกหุ่นปั้นพยนต์เสก ที่เรารู้จักก็คือ วัวธนู ควายธนู กุมารทองพราย หรือหุ่นพยนต์ สามอย่างแรกคงคุ้นเคย แต่สำหรับ หุ่นพยนต์ ลักษณะทำจากฟางข้าว ผูกเป็นตัวคน เขียนชื่อเหยื่อแล้วว่าคาถา ก่อนจะปล่อยมาในคืนเดือนมืด ลักษณะของหุ่นพยนต์ จะเหมือนกับคน สัตว์ เทวดา ยักษ์ ฯลฯ แต่จะเดินทื่อๆ ไร้ชีวิตชีวาเหมือนหุ่นยนต์ แล้วตรงเข้าไปทำร้ายเหยื่ออย่างเดียว ส่วนใหญ่จะผูกไว้เพื่อเฝ้าบ้านได้ เมื่อแขกใครไปมา อาจจะเห็นเหมือนมีใครเดินอยู่ในบ้านอยู่ตลอด
นอกจากใช้ไปโจมตีฝ่ายตรงข้ามแล้ว ยังป้องกันอันตราย จากภูตผีปีศาจมารังควานอีกด้วย สำหรับสายนี้จะใช้งานคุ้ม เหมือนมี ซีเคียวริตี้การ์ดประจำตัว ของจำพวกแบบนี้ถ้าไม่เชื่อ อย่านับถือ และอย่าลบหลู่
มนต์ดำเขมร
มนต์ดำเขมร สิ่งลี้ลับที่จับต้องไม่ได้ แต่ทำให้คนตายมานักต่อนัก ปัจจุบันยังมีหลงเหลือให้เห็น ในรูปแบบดังต่อไปนี้...
ของเขมรที่น่ากลัว มีอยู่หลายอย่าง ซึ่งได้มีพิธีกรรมสืบทอดเอาไว้ จากรุ่นต่อรุ่น จวบกระทั่งยุคสมัยปัจจุบัน และนับวันก็ยิ่งทวีคูณ ความร้ายกาจ ความน่าสะพรึงกลัว เป็นอย่างมากในอานุภาพ ความโหดเหี้ยม อำมหิตของ”คุณไสยมนตร์ดำ”
ของเขมรที่ยังคงมีเหลืออยู่ในปัจจุบัน ที่พอจะเรียบเรียงได้ก็มีดังต่อไปนี้
ผู้ถูกกระทำจะได้รับผล โดยมีอาการที่แตกต่างกันออกไปดังต่อไปนี้
ขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซต์วัดโสมนัสวิหาร
ขอบคุณข้อมูลจาก www.palungjit.org